วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556
วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556
วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556
10 เรื่องผิดพลาด+++
เรื่องของช่างภาพไม่ว่าจะมือสมัครเล่นหรือ คนที่ที่รับงานถ่ายภาพเป็นอาชีพ ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดปัญหาคล้ายๆกัน เรื่องเหล่านี้มีอะไรบ้าง เชื่อว่าแทบทุกคนคงจะต้องเจอกันซักข้อแหละ ถ้าเป็นการถ่ายภาพเวลาไปเที่ยวกันในหมู่ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงก็ดีไป แต่ถ้าเป็นตอนรับงานแล้วดันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ก็ต้องแก้ไขกันไปตามสถานการณ์ล่ะคร้าบ
1. ลืมเปิดฝาครอบเลนส์ – ข้อนี้บ่อยมากครับ โดยเฉพาะเวลาฉุกละหุกรีบๆ และมีเลนส์ในกระเป๋าต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาซัก 2-3 ตัว มันประมาณว่า หยิบตัวนี้วางใส่กระเป๋า กลัวฝุ่นจะเข้าหน้าเลนส์ก็ต้องเอาฝาปิดไว้ พอหยิบมาใช้อีกที อ้าว ลืมเปิดฝา ต้องบอกลูกค้าให้ยิ้มอีกรอบ โอ๊ย วุ่นวาย ยังคิดเลยครับว่า ทำไมมันไม่ผลิตเลนส์ที่มีฝาปิดออโต้แบบกล้องคอมแพคมันซะเลย
2. เลือกค่า ISO ถ่ายในที่มืดแล้วลืม พอออกที่สว่างรูปที่ได้ก็สว่างจ้าเลย – เรื่องนี้ก็เป็นอีกอย่างที่ลืมกันบ่อยๆ ถ่ายตอนออกกลางแจ้ง อ้าว ลืมปรับ iso เซ็งเลย ต้องขอโทษขอโพยลูกค้าเป็นการใหญ่
3. แบตเตอรี่หมดเพราะลืมปิดกล้อง – เคยไหมครับ ถ่ายรูปครั้งสุดท้ายเมื่อสองวันที่แล้ว ละลืมปิดสวิตซ์กล้อง แบตก็เลยหมดไปเรื่อยๆ พอเราหยิบมาใช้อีกทีก็เข้าใจว่ายังเต็ม สองวันก่อนถ่ายไปนิดเดียว แต่ปรากฎพอวันนี้เอาไปถ่าย แบตหมดอย่างไว ใครไม่มีสำรองนี่ถึงกับเศร้าเลยนะครับ อีกเรื่องนึงที่แย่กว่าคือลืมใส่แบตเตอรี่มันซะเลย แบบว่ามีงานตอนเช้า และชาร์จแบตไว้ พอเช้ามาลืมทิ้งไว้ที่บ้าน อันนี้สุดยอดแห่งหายนะ
4. แบตเตอรี่หมดอายุ พอดี๊ พอดี – โอยยย ข้อนี้ถือว่าโคตรซวย และผมก็เคยเป็นมาแล้ว งานแต่งด้วยครับ แบตอ่อนลงๆ กะว่ามีสองก้อนถ่ายทั้งวันหมูๆ ไม่ได้สำรองไป ตกบ่ายๆแบตทำไมหมดแล้ว เอาไปชาร์จก็ไม่เข้า ปรากฎว่ามันหมดอายุตอนนั้นพอดี เหลืออีกก้อนใช้ไปก็ลุ้นไปว่าจะครบทั้งงานไหม
5. ตั้งค่าระบบเลือกพื้นที่วัดแสงเป็นแบบเฉพาะจุดทิ้งไว้ – แล้วก็ลืมเปลี่ยนคืนไงครับ ถ่ายรูปออกมา ทำไมมันมืดไปสว่างไปตลอดหว่า กว่าจะเจอว่าเพราะอะไรก็เล่นเอางานเกือบเสีย
6. การ์ดเต็ม – แถมไม่มีสำรอง อันนี้หายนะของจริงครับ ผมเคยประมาทคิดว่างานประมาณนี้มันควรจะได้กดภาพเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆมันได้กดเยอะมาก การ์ดก็ร่อยหรอไปเรื่อยๆ เอาละซิตรู เลยต้องแก้ไขด้วยการปรับขนาดภาพให้เล็กลง จาก L เป็น M และ S ในที่สุด พร้อมๆกับภาวนาว่าอย่าให้เค้าถูกใจเอารูปไซส์ S ไปขยายใหญ่เลยจ้า
7. ใช้แฟลชแล้วดันตั้งชัตเตอร์สปีดไวเกินไป – ปกติคือถ้าชัตเตอร์สปีดไวกว่า 1/250 ภาพที่ได้จะเป็นเงาดำๆเกิดขึ้นบนภาพอันเป็นผลมาจากการที่ชัตเตอร์มันปิดไวเกิน แก้ไขง่ายๆก็ถ้าเป็นแฟลชดีๆมันจะมี High speed sync ก็ใช้สปีดสูงๆได้เลย หรือจะลดสปีดลงมาให้เหลือประมาณ 1/125 ลงมาก็ได้ครับ
8. Plate ขาตั้งกล้องหายไปไหนไม่รู้ – อันนี้เจ็บปวดๆ แบกขาตั้งอันเบ้อเริ่มมาด้วย แต่ดันไม่เอา Plate มา ส่วนใหญ่มันมักจะติดอยู่กับกล้องตัวอื่น หรืออยู่ในกระเป๋าใบอื่น ทางแก้ที่ดีที่สุดคือ ใช้เสร็จต้องเอากลับไปติดไว้กับขาตั้งกล้องทุกครั้ง ทำให้เป็นนิสัยครับ
9. ตั้ง White Balance ค้างไว้ค่าเดิม – ผมเคยตั้งมันไว้ที่ Fluorescent และไปถ่ายกลางแจ้งแดดแจ๋ โดยที่ดันประมาทไม่ยอมเช็คภาพหลังถ่ายแต่ละรูป (มันร้อนและมองจอหลังกล้องไม่ค่อยเห็นด้วยครับ) ถ่ายไปเป็น 10-20 นาที พอเข้าร่ม อ้าววว ถ่ายใหม่เลย
10. ลืมปัดฝุ่น – กร๊ากๆๆ อันนี้คลาสสิคมาก ลืมปัดฝุ่นแล้วไม่ทันเห็น ภาพออกมามีจุดดำๆขาวๆเพียบ น่าเตะตัวเองเป็นที่สุด
10 ข้อครบแล้ว ใครเคยลืมหรือพลาดข้อไหนบ้างครับ ใครไม่เคยพลาดเลยนี่ยอดมนุษย์จริงๆเลย ขอยกย่องคร้าบบ
Credit ภาพจาก : www.digitalcameraworld.com
COOLPIX P520 กล้องดิจิตอลคอมแพ็ค จาก NIKON
NIKON เปิดตัวกล้องคูลพิกซ์ P520 กล้องคอมแพ็คประสิทธิภาพสูงรุ่นล่าสุดในตระกูลคูลพิกซ์ ที่มาพร้อมกับหลากหลายฟังก์ชั่นใหม่ที่รองรับการถ่ายภาพแบบ full-scale ด้วยประสิทธิภาพการซูมเหนือระดับที่ 42 เท่าด้วยเลนส์ NIKKOR ทั้งรองรับการถ่ายภาพแบบซุปเปอร์ เทเลโฟโต้ ที่เทียบเท่าได้กับทางยาวโฟกัสที่1000 มม. พร้อมระบบลดการสั่นไหวแบบชุดเลนส์ (VR)และจอแสดงผล LCD ขนาดใหญ่ หมุนได้รอบทิศขนาด 3.2 นิ้ว เพื่อมุมมองกว้าง
กล้องรุ่น P520 ได้รับการพัฒนามาจากกล้องรุ่นที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้อย่างรุ่นคูลพิกซ์ P510 ซึ่งเป็นกล้องศักยภาพการซูมระดับสุดยอด กล้องรุ่น P520 ถือเป็นกล้องรุ่นที่มีเลนส์ซุมประสิทธิภาพระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของกล้องตระกูลคูลพิกซ์และซูมแบบออพติคัล 42 เท่าด้วยเลนส์ NIKKOR ที่มาพร้อมกับเลนส์มุมกว้างทางยาวโฟกัส 24-1000 มม. (เทียบเท่าฟอร์แมท 35มม.) และยังมีการเพิ่มโหมด ACTIVE ไว้ในระบบลดการสั่นไหวแบบชุดเลนส์ (VR) เพื่อช่วยเรื่องภาพถ่ายที่ไม่ชัดซึ่งเกิดจากการสั่นไหวขณะถ่ายภาพหรือบันทึกภาพวีดีโอ นอกจากนี้กล้องรุ่น P520 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นพื้นฐานและฟังก์ชั่นการทำงานขั้นสูงอีกมากมายรวมไปถึงจอแสดงภาพLCDขนาด 3.2 นิ้ว เซ็นเซอร์แบบ Backside illumination CMOS ที่มีความละเอียดถึง 18.1 ล้านพิกเซล บันทึกภาพวีดิโอแบบความละเอียดสูงแบบ Full-HD ขนาด 1920×1080 60i หรือ 50i และฟังก์ชั่น GPS ที่รองรับการแสดงภาพแบบ point of interest (POI)
ยิ่งไปกว่านั้น กล้องรุ่น P520 ยังสามารถรองรับอะแดปเตอร์พกพาไร้สาย WU-1b (อุปกรณ์เสริมจำหน่ายแยก) สะดวกในการถ่ายโอนภาพหรือควบคุมการทำงานด้วยอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ (Smart devices) รวมทั้งการอัพโหลดภาพเพื่อแบ่งปันในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คได้อย่างง่ายดาย เมื่อกล้องได้รับการเชื่อมต่อกับอะแดปเตอร์พกพาไร้สาย WU-1b ผู้ใช้งานจะสามารถอัพโหลดภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวคุณภาพสูงไปยังอุปกรณ์มือถือต่างๆ (Smart devices) ได้อย่างง่ายดาย ภาพที่เห็นผ่านเลนส์กล้อง (liveview) จะสามารถแสดงบนหน้าจออุปกรณ์มือถือต่างๆ สำหรับการถ่ายแบบ Remote shooting ภาพถ่ายและวีดีโอต่างๆ ที่บันทึกด้วยกล้องรุ่น P520 จึงสามารถอัพโหลดไปยังอุปกรณ์มือถือต่างๆ และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อแชร์ให้กับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้อย่างง่ายดาย *ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นสำหรับ Wireless Mobile Adapter Utility บนอุปกรณ์ก่อน (สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้ฟรีจาก App Store ของผู้ผลิตอุปกรณ์นั้นๆ)
ประสบการณ์ที่ควรค่าต่อการแบ่งปัน
เมื่อใช้อุปกรณ์เสริม WU-1a Wireless Mobile Adapter คุณสามารถส่งภาพถ่ายได้อย่างทันทีผ่านทาง Wi-Fi® สู่
สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณ* พร้อมควบคุมกล้องได้จากระยะไกลด้วยรีโมท เพื่อประสบการณ์ที่เหนือชั้นมากยิ่งขึ้น
และใช้ฟังก์ชั่น GPS เพื่อบันทึกข้อมูลสถานที่แก่ภาพถ่ายทุกใบ
Wi-Fi® และตราสัญลักษณ์ Wi-Fi CERTIFIED เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Wi-Fi Alliance
* การใช้ฟังก์ชั่นนี้ ต้องติดตั้งอุปกรณ์เสริม Wireless Mobile Adapter Utility ในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก่อน
วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ไปเที่ยวหลังสวน ชุมพร
I created this awesome image using Split Camera.
You can download this app from Google Play: https://play.google.com/store/apps/details?id=com.split.pic.cam.photo.stories
วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556
วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556
มาทำคอมพิวเตอร์ PC ให้เป็นแอนดรอยกันเถอะ
เดี๋ยวนี้ใครๆก็คงจะรู้จักกับ ระบบปฏิบัติการ Andriod บนโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตต่างๆกันเยอะแล้วนะคะ แต่เพื่อนๆรู้มั้ยคะว่า Android ไม่ได้ใช้ได้แค่บนมือถือหรือแท็บเล็ตเท่านั้น!!
แต่ยังใช้ได้แม้กระทั่งเครื่อง PC หรือ NetBook ธรรมดาๆก็ได้ด้วยค่ะ เหมาะดีสำหรับเพื่อนๆที่ยังไม่มีเครื่อง Android แต่อยากลองใช้งานดู หรือแม้กระทั่งนักพัฒนา Application เองก็ตามค่ะ
1. วันนี้เรามีคลิปวิดีโอที่อยากให้เพื่อนๆลองทำตามเล่นๆดูกันนะคะ โดยคลิปนี้จะอยู่ในลักษณะ 3 in 1 คือมี 3 อย่างรวมอยู่ในคลิปเดียว (โอ้ มันจอร์ชมากเลยซาร่า า า าา )
ภายในคลิปวีดิโอของเรานี้จะประกอบไปด้วย...
- การติดตั้ง Android บน PC
- การใช้ Ad-Hoc ระหว่าง Android กับ PC
(คลิกเพื่อดูการใช้งาน Ad-Hoc จาก หัวข้อที่แล้ว : มารับส่งไฟล์ผ่านระบบ Ad-Hoc กันเถอะจ้า )
- การใช้งาน MirrorOp เพื่อควบคุมหน้าจอ ระหว่าง Android กับ PC
สำหรับ โปรแกรม MirrorOp เป็นโปรแกรมที่เราใช้ในการควบคุมอุปกรณ์จาก Androidด้วยกัน หรือ PCด้วยกัน หรือแม้แต่ Android กับ PC เองก็ตาม โดยจะต้องให้อุปกรณ์เครื่องหนึ่งทำหน้าที่เป็น ตัวส่งคำสั่ง หรือ Sender และให้อีกเครื่องเป็น ตัวรับคำสั่ง หรือ Receiver วิธีทำนั้นไม่อยากค่ะ เพื่อนๆลองทำตามดูในคลิปได้เลยนะคะ
2. ก่อนที่เราจะลงมือทดลองเล่น Android หรือ MirrorOp เพื่อนๆต้องมีโปรแกรมสำหรับใช้งานก่อนค่ะ
สำหรับ Andriod และ MirrorOp เพื่อนๆสามารถ ดาวน์โหลดได้กันที่
Andriod >> VirtualBox Android-x86
MirrorOp >>MirrorOp
3. โดยปกติแล้วมือถือหรือแท็บเล็ตในระบบ Android จะมองไม่เห็นเน็ต Wifi ที่สร้างมาจากการทำ Ad-Hoc วิธีแก้ไขนั้นทำได้โดยการการแก้ไฟล์ wpa_supplicant.conf แต่วิธีนี้จะทำได้เฉพาะคนที่ Root เครื่องแล้วเท่านั้น (เปรียบกับเครื่อง iOS ก็คือการ JailBreak นั่นเอง)
แต่เดี๋ยวก่อน...!!
วิธีที่เรานำมาเสนอให้เพื่อนๆลองทำตามดูนั้น เป็นการทำให้อุปกรณ์ Android สามารถมองเห็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบ Ad-Hoc ที่สร้างจากเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำการ Root เครื่องแต่อย่างใด ซึ่งวิธีนี้ในคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆจำเป็นจะต้องมี driver Microsoft Virtual WiFi Miniport Adaptor ก่อนค่ะ ซึ่งคอมพิวเตอร์สมัยนี้ก็มีให้อยู่แล้วเกือบจะทุกรุ่นทุกยี่ห้อ
4. ถ้าพร้อมแล้ว เรามาทำตามคลิปวิดีโอไปพร้อมๆกันเลยดีกว่านะคะ
Download Link: https://www.box.com/s/i2ouvn3pvfpq1pzf35k5
5. เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เพียงเท่านี้เพื่อนๆก็จะสามารถใช้งาน Android บน PC ได้เก๋ๆโดยไม่ต้องง้อมือถือหรือแท็บเล็ตก็ยังได้
ขอบคุณสำหรับการรับชมและติดตามค่ะ สำหรับคลิปหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้นเพื่อนๆต้องคอยติดตามกันต่อไปค่ะ
แต่ที่สำคัญ อย่าลืมเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่า า า าา า...
ข้อมูลในการทำเนื้อหาและคลิปวีดิโออ้างอิงมาจาก
ทางเลือกในการต่อเน็ตให้ android ด้วย PC
>> http://droidsans.com/share-internet-to-android-from-pc
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)